วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อินเดีย...สามเหลี่ยมอารยธรรม เดลี อัครา ชัยปุระ 6 # City Palace และ หอดูดาวจันตาร์มันตาร์

หลังจากชมความยิ่งใหญ่ของ Amber Fort แล้วเราก็มาต่อกันที่ City Palace


ทางเข้า City Palace


ทวารบาลประจำประตู


มาถึงอินเดียแล้วจริงๆ  (ถ่ายรูปแบบนี้ต้องจ่ายตังค์นะคับ ไปถ่ายเขาฟรีๆไม่ได้)
City Palace เป็นพระราชวังที่มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 ใน 7 ของเมือง โดยพระราชวังนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปีค.ศ.1729 ถึง 1732 เป็น ศิลปะผสมผสานระหว่างราชสถานและโมกุล ภายในมีลานกว้าง สวนและอาคารมากมาย ตรงกลางเป็นหอจันทราฮาล สูงเจ็ดชั้น ปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ของมหาราชาไสว แมนสิงห์ที่ 2 แสดงภาพเขียน อาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องแต่งกายในราชสำนัก 


ทางเข้าเขตพระราชฐาน
ท้องพระโรงที่แปลงเป็นพิพิธภัณฑ์


บริเวณท้องพระโรงทำเป็นพิพิธภณฑ์แสดงอาวุธโบราณ

ราชองครักษ์
ชัยปุระนั้นมีมหาราชาปกครองมาอย่างยาวนานถึง 500 ปี  แม้หลังจากได้รับเอกราช  บทบาทของมหาราชาจะเหลือไว้สำหรับงานราชพิธีเท่านั้น แต่มหาราชาส่วนใหญ่ในอินเดียของยังได้รับการนับถือจากประชาชน  เนื่องจากเชื่อกันว่าเหล่ามหาราชาคือผู้ที่สืบทอดเชื้อสายมาจากพระรามซึ่งเป็นอวตารของพระวิษณุนั่นเอง     

ปัจจุบันพระราชวังนี้ก็ยังมีมหาราชาประทับอยู่เหมือนเช่นที่เป็นมาเมื่อ 500 ปีที่แล้ว  ดังนั้นพื้นที่ของพระราชวังจึงเปิดให้ชมเป็นบางส่วนเท่านั้น


มหาราชาองค์ปัจจุบันยังประทับอยู่ที่ตึกสีครีมด้านหลัง
จุดน่าสนใจในบริเวณท้องพระโรง  นอกจากจะมีอาวุธต่างๆ  ราชรถ และข้าวของเครื่องใช้จัดแสดงอยู่แล้ว  ยังมีโอ่งน้ำที่ทำด้วยเงินแท้ๆ ใบใหญ่ที่สุดในโลกวางอยู่ด้วย


โอ่งเงินขนาดใหญ่(มากๆ) นี้มี 2 ใบ  โดยเป็นโอ่งที่มหาราชามาโนชสิงห์สั่งให้ทำขึ้นเพื่อใช้บรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคา สำหรับให้พระองค์ใช้ดื่ม และอาบในระหว่างการเดินทางไปประเทศอังกฤษโดยทางเรือ 


โอ่งเงินแท้ๆ ใหญ่ที่สุดในโลก
จากบริเวณส่วนหน้าก็จะมีประตูเพื่อเข้าไปชมเขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ประตู 4 ฤดู ซึ่งแต่ละประตูจะมีการตกแต่งแตกต่างกันเพื่อเป็นตัวแทนของฤดูต่างๆ ได้แก่ ฤดูฝน  ฤดูร้อน ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ


ตึกด้านในทำหน้าที่เป็นกำแพงกั้นเขตพระราชฐานชั้นนอกกับชั้นในด้วย
 
ทางเข้าอลังการมาก
Summer
Autumn
Spring
หลังจากชม City Palace แล้วเราก็เดินต่อไปเพื่อชม หอดูดาว  จันตาร์มันตาร์ (Jantar Mantar) 

หอดูดาว  จันตาร์มันตาร์ (Jantar Mantar) เป็นสถานที่ทางด้านดาราศาสตร์ที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 โดย มหาราชา Jai Sing ที่ 2 โดยในอดีตเคยใช้เป็นหอดูดาวที่ใหญ่ที่สุดและแม่นยำที่สุดในอินเดีย





หอดูดาว


ส่วนหนึ่งของนาฬิกาแดดขนาดใหญ่
มหาราชา Jai Sing ผู้สร้าง Jantar Mantar ถือเป็นผู้นำแห่งวิทยาการด้านดาราศาสตร์ในอินเดีย   ทรงศึกษาและสร้างเครื่องมือวัดตำแหน่งดวงอาทิตย์และดวงดาวหลายชิ้น บางชิ้นใช้คำนวณช่วงฤดูร้อนของปีที่จะมาถึง บางชินคำนวณอากาศและเม็ดฝน

แม้ Jantar Mantar จะถูกสร้างด้วยแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็มีแนวคิดแบบเทวนิยมแฝงอยู่ด้วย เพราะเมืองชัยปุระถูกออกแบบให้เป็นเสมือนเมืองแห่งเทพเจ้า ตามแผนภูมิของจักรวาลโดยมีพระราชวังชัยปุระอันงดงามเป็นแกนกลางแห่งจักรวาล   และมีสวนดาราศาสตร์ Jantra Mantra ไว้อ่านการเคลื่อนไหวของพระอาทิตย์ ดาวเคราะห์ และดวงดาวต่างๆ เสมือนเป็นแผนที่แห่งสวรรค์ สำหรับมหาราชานั่นเอง


นาฬิกาแดดมุมด้านข้างขนาดมาตรฐาน  โปรดสังเกตุนาฬิกาแดดเวอร์ชั่นไซส์ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังไกลๆ 
นาฬิกาแดดด้านหน้า วัดเวลาตามเงาที่ตกลงบนส่วนโค้ง
แผนที่จักราราศี
นาฬิกาแดด มุมด้านข้างไซด์ใหญ่สุดๆ (เทียบกับฝรั่งที่กำลังเดินอยู่)
เสร็จจาก City Palace และ หอดูดาว จันตาร์มันตาร์แล้ว เราก็ได้มีโอกาสทานอาหารค่ำมื้อพิเศษแบบ Exclusive ในพระราชวังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นโรงแรมที่ชื่อว่า ราชพาเลซ 


ทางเข้าราชพาเลซ
ราชพาเลซ (Raj Palace) เป็นพระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์มหาราชาในชัยปุระ เป็นที่ประทับของเหล่าราชวงศ์เรื่อยมาจนกระทั่งปี 1995 เจ้าหญิง Jayendra Kumari Ji ได้ตัดสินพระทัยบูรณะพระราชวังแห่งนี้เป็นโรงแรมสุดหรู  


ตึกด้านหน้า


โรงแรมราชพาเลซ เป็นโรงแรมในกลุ่ม  Small Luxury Hotels of the World โดยได้รับรางวัล The world's best heritage hotel มาถึง 5 ปี ติดต่อกัน (2007 - 2011)
























และเนื่องจากอีกไม่กี่วัน โรงแรมแห่งนี้จะถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานใหญ่ของประเทศทำให้โรงแรมปิดให้บริการเพื่อทำการตกแต่งโรงแรมใหม่ทั้งหมด  แต่กลุ่มเราได้รับสิทธิพิเศษเข้ามาใช้สถานที่ของโรงแรมในการทานมื้อค่ำและชมการแสดงศิลปะวัฒนธรรมของอินเดียให้ชมแบบ Exclusive  ซึ่งในมุมหนึ่งก็เป็นสิทธิพิเศษที่น่าประทับใจ แต่อีกมุมในโรงแรมใหญ่โต โบราณๆ แต่มีคนแค่ 20 กว่าคน มันก็โหวงเหวงพิลึกเหมือนกัน

















ใครสนใจอยากเข้าไปพักที่โรงแรมนี้ก็ลองเข้าไปหาข้อมูลได้คับที่ http://www.rajpalace.com/hotel-raj-palace.html  

รับรองว่าหรูหราระดับมหาราชาแน่นอน  ด้วยราคาเข้าพักแบบเหนาะๆ ที่คืนละ 10,000 - 450,000 บาท !!!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น