วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อินเดีย...สามเหลี่ยมอารยธรรม เดลี อัครา ชัยปุระ 4 # พระราชวังชาโมด

การเดินทางไปอินเดียนี้คราวนี้  มใช้บริการของการบินไทย ออกจากกรุงเทพเวลา 19.50 น. ใช้เวลาบินราว ๆ 4 ชั่วโมงก็เดินทางถึงสนามบินอินทิรา คานธี กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดียราว ๆ 5 ทุ่ม

ตอนนั้นเราเดินทางไปอินเดียกันช่วงเดือนพฤศจิกายน  อากาศที่นิวเดลีค่อนข้างหนาวทีเดียว ประมาณ 10 - 11 องศา ไปถึงก็ไปเช็คอินเข้าพักที่โรงแรม Intercontinental ซึ่งต้องบอกว่าแม้จะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่การบริการเทียบโรงแรมบ้านเราไม่ได้เลย  อาทิ กระเป๋านั้นต้องยกกันเองคับ เจ้าหน้าที่มีน้อยมาก หากรอให้เจ้าหน้าที่โรงแรมยกให้เผลอๆ ต้องรอกระเป๋ากันจนไม่ได้นอน   ขนาดจัดการอะไรกันเอง คืนนั้นกว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีสอง 

นอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นแต่เช้า เพราะวันนี้เราจะเดินทางไปเมือง ชัยปุระ กันเลย   ข้อดีของการเลือกโรงแรมระดับ 5 ดาว นอกจากความสะดวกสบายและความปลอดภัยแล้ว  คือเรืองอาหารคับ เพราะสำหรับคนที่ไม่ชอบอาหารที่มีเครื่องเทศแบบอินเดีย โรงแรมที่มีดาวเยอะหน่อยจะมีอาหารที่ค่อนข้างหลากหลายสัญชาติให้เลือกทานมากกว่า  อย่างวันนี้ผมก็ขอเลือกทานเบาๆ ด้วยเมนูปลาย่างพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ กับขนมปัง


อิ่มกันแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปเมืองชัยปุระกัน โดยก่อนหน้านั้นเราได้วนดูรอบๆ เมืองนิวเดลีช่วงสั้นๆ แล้วลงไปถ่ายรูปกันที่ประตูชัยของอินเดีย หรือ India Gate

India Gate เป็นอนุสรณ์สถานแห่งสงครามที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “All India War Memorial”  มีความสูง 42 เมตร ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงนิวเดลี ออกแบบโดย เซอร์ เอ็ดเวิร์ด ลูตเยนส์ (Sir Edwin Lutyens) เพื่อรำลึกถึงนายทหารหาญจำนวน 90,000 นาย ที่พลีชีพในการต่อสู้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกานิสสถาน (สู้ให้อังกฤษนะคับ เพราะตอนนั้นอินเดียยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ)  โดยชื่อของทหารหาญเหล่านั้นได้ถูกสลักไว้บนพื้นผิวของประตูทั่วทุกด้านเพื่อ รำลึกถึงคุณงามความดีและความกล้าหาญของพวกเขา

ใช้เวลาถ่ายรูปกันไม่นาน เราก็เดินทางไปเมืองชัยปุระกันต่อ โดยระหว่างทางเราจะแวะกันที่เมืองชาโมดเพื่อชม...พระราชวังชาโมด...และทานอาหารเที่ยงในพระราชวังกันก่อน...Wow!!!

พระราชวังชาโมด หรือ Samode Palace เป็นพระราชวังของสุลต่านเมืองชาโมด ซึ่งจริงๆแล้วเจ้าของพระราชวังแห่งนี้ไม่ได้มีสายเลือดกษัตริย์  แต่เนื่องจากเขาเป็นชนชั้นสูงที่มีคุณูปการต่อบ้านเมืองมากมายจึงได้รับการอนุุญาตให้ใช้ชื่อเหมือนเป็นสมาชิกราชวงศ์ได้  ที่พำนักของเขาเลยกลายเป็นพระราชวังไปด้วย


พระราชวังชาโมด เป็นพระราชวังเล็กๆ อยู่ห่างจากเมืองชัยปุระ ประมาณ 42 กิโลเมตร  เป็นพระราชวังที่ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง ถือเป็นเพชรเม็ดเอกแห่งสถาปัตยกรรมแบบราชสถานที่เหลือมาถึงปัจจุบัน  นอกจากนั้นด้วยที่ตั้งของพระราชวังที่อยู่บนเขาสูงทำให้วิว ทิวทัศน์ของพระราชวังแห่งนี้สวยงามและโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะมีอายุกว่า 400 ปีแล้ว พระราชวังแห่งนี้ก็ยังได้รับการดูแลและบูรณะมาเป็นอย่างดี  ปัจจุบันตัวพระราชวังได้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงแรมที่เปิดให้นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่ต้องการใช้ชีวิตในพระราชวังโบราณสามารถเข้าพักได้

และนี่คือเหตุุผลว่าทำไมเราถึงสามารถมาทานมื้อเที่ยงกันแบบชาววังได้ 555

ประตูทางเข้า

ป้อมตรงประตูทางเข้า

ด้านบนมีทางขึ้นไปศาสนสถาน

ประตูทางเข้าด่านที่ 2

จากด้านใน



ด้านหน้าพระราชวัง

ประตูโบราณทียังใช้งานอยู่

ทางขึ้นเข้าไปด้านใน

ด้านในเป็นลานโล่งตรงกลาง

ซุ้มทางเข้า สวยมากๆๆๆๆ

ลานด้านในปัจจุบันทำเป็นที่นั่งจิบชา

บรรยากาศน่ารื่นรมย์สุดๆ

พนักงานเสิร์ฟทำให้รู้สึกย้อนยุคไปช่วงอาณานิคมเลย

วิวสูงๆ

อาคารอื่นๆในพระราชวัง

สำหรับห้องอาหารในพระราชวังแห่งนี้จะเน้นอาหารอินเดียแท้ๆ เน้นเครื่องเทศแบบจัดๆ ซึ่งบางอย่างก็ดูไม่น่าทานเลย แต่สำหรับผมซึ่งชอบอาหารอินเดียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมาได้ชิมรสชาติต้นตำรับแล้วต้องขอบอกว่าอร่อยมากๆ (แต่คนอื่นๆ กินกันไม่ลงเลยทีเดียว 55)

บรรยากาศในห้องอาหาร

มื้อเที่ยงวันนี้ เจ้าก้อนเขียวๆหน้าตาไม่น่าทานนี่แหละ อร่อยมากกกก

ทานกันเสร็จก็เดินดูรอบๆ อีกนิดหน่อย

ห้องหับต่างๆถูกดัดแปลงมาเป็นห้องสำนักงานและห้องพักแขก

ร้านขายหนังสือและของที่ระลึก

ลาแล้วพระราชวังเล็กๆแต่น่ารัก(อย่างยิ่ง)
เป็นพระราชวังที่น่าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่งนะคับ  ถ้าใครสนใจอยากไปใช้ชีวิตแบบมหาราชา มหารานี ก็ลองเข้าไปดูที่ข้อมูลได้ที่ website ของทางโรงแรมนะคับ   

www.samode.com/  

คืนละหมื่นกว่าบาทเอ๊งงงง !!!!
 
พอได้เวลา เราก็เดินทางต่อไปเมืองชัยปุระ  ซึ่งพอพ้นกำแพงพระราชวังอันหรูหรา เราก็กลับมาสูโลกแห่งความจริงที่น่าหดหู่ว่า อินเดียเป็นประเทศหนึ่งที่มีคนจนมากที่สุดในโลก

แต่สำหรับผม อดรู้สึกไม่ได้ว่า ช่องว่างระหว่าง ความรวยและความจนของที่นี่ ความแตกต่างนั้น...มันชัดเจนเกินไป...
 
บ้าน หรือ อะไร???

โรงเรียน???????

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น