วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

ชิม ชิม และ ชิม มาเก๊า ฮ่องกง 7 # / Food Court The Venetian มาเก๊า


โดนติ๋มซำมื้อเช้าของฮ่องกงเข้าไปก็อยู่ยาวไปถึงมื้อเย็นเลย

พวกเราก็เลยตัดสินใจไปปิดท้ายมื้ออร่อยของทริปนี้กันที่ food court ของเวเนเชี่ยน ที่มาเก๊า  เพราะเราต้องข้ามกลับไปฝั่งมาเกีาเพื่อนั่งเครื่องบินกลับ
ที่ Food court ของเวเนเชี่ยน มาเก๊ามีอาหารนานาชาติมากมายเลยคับ  อยากเลือกกินของประเทศไหน มีหมด


ที่บริเวณ Food Court ก็จำลองท้องฟ้ามาเหมือนกัน ผู้คนมากินกันแน่นขนัดมาก  



วันนี้ลองกันแนวญี่ปุ่น จีน เกาหลีนี่ล่ะคับ

จานแรกเริ่มที่ข้าวหมูอบ  ถึงหน้าตาไม่น่าดูเพราะหมูดูแห้งๆ ข้าวก็ดูแห้งๆ แต่รสชาติก็อร่อยดีคับ ไม่เลวร้าย

ข้าวหน้าเป็ดจานนี้ไม่ไหวคับ

เป็ดสาบมาก จนกินไม่ไหว  ไม่ผ่านคับ
มาแก้ตัวได้ที่บะหมี่เกาหลีชามนี้คับ (65$) ประมาณ 330 บาท

ข้อดีคืออร่อยแบบคุ้นลิ้นดีคับ

แต่ข้อเสียคือถ้าขับรถไปซื้อบะหมี่เกาหลีรสกิมจิแบบซองที่วิลล่า มาร์เกต   มาต้มกับหมูสับใส่ผักนิดหน่อย

ก็จะได้บะหมี่เกาหลีที่รสชาติ + หน้าตาแบบนี้เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนในราคาเพียง 60 บาท 555

 ก็คงขอจบ Review ชิมไปบ่นไป ที่มาเก๊า ฮ่องกง ไว้แค่นี้นะคับ

ขอบคุณที่มาติดตามอ่านและชมกัน แต่ต้องของย้ำว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลนะคับ

ไว้ว่างๆ จะกลับมา review เรื่องสถานที่เที่ยว มาเก๊า ฮ่องกง อีกครั้ง

เร็วๆนี้คับ

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ชิม ชิม และ ชิม มาเก๊า ฮ่องกง 6 # ติ่มซำ ฮ่องกง

9bj,มาฮ่องกงแล้วไม่ได้ชิมติ่มซำ ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าได้มาถึงอ่องกงแล้ว  ดังนั้นเราจึงไปเดินหาร้านติ๋มซำชื่อ london ที่หนังสือท่องเที่ยวอ่องกงแนะนำมา  แถวถนน Nathan   แต่ไปถึงพิกัดแล้วกลับไม่เจอคับ  กลายเป็นร้านอื่นมาแทน 
 

แต่ร้านที่มาแทนก็ดูไม่ไก่กานะคับ เพราะมีถ้วยรางวัลการันตีเพียบ  ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นถ้วยรางวัลอะไร แต่น่าจะบอกว่าร้านนี้อาหารอร่อย  เลยตาลุกวาวขึ้นมาทันที  เลยขึ้นไปเลยคับชั้น 2

 

แต่พอเห็นด้านในร้านก็หนาวๆเหมือนกัน เพราะดูไฮโซอยู่ จะกระเป๋าฉีกมั้ย



นั่งลงตะสักพักก็มีเด็กเสริฟมามอบอาวุธให้ครบมือ


งานนี้โชคดีนะคับที่บางเมนูมีรูปให้ดู  ที่เหลือก็อาศัยสอดส่ายสายตาแลโต๊ะข้างๆ หรือไม่ก็สั่งแบบเดาๆเอา
สั่งไปสั่งมา ก็มากองเต็มโต๊ะเลย




ไม่ต้องเสียเวลาคับ ลุยกันเลยด้วยเมนูแรก  ข้าวหน้ากระดูกหมู+ตีนไก่

เห็นสั่งกันเกือบทุกโต๊ะ

หลังชิมก็ไม่แปลกใจคับ เพราะ อร่อยมากกกก จนต้องสั่งเบิ้ล



จานต่อมาเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง

กุ้งตัวเน้นๆ + แตงกวาหั่นบาง ราดด้วยซีอิ้วหวาน

perfect คับ
ต่อด้วยเผือกบดหมูสับทอด (ขอตั้งชื่อเองนะคับ)

จานนี้ก็อร่อยนะคับ  ขาดแต่น้ำจิ้มที่คู่ควร เพราะทานเปล่าๆ มันเลี่ยนไปนิด

ถ้ามีน้ำจิ้มบ๊วยด้วยจะ perfect มากเลย



มาทานติ๋มซำถ้าไม่มีขนมจีบก็คงแปลกๆ

จานนี้ของเขาเด็ดจริงคับ  กุ้งตัวโตมาก แปะไข่กุ้งนิดหน่อยพอได้รส

ที่สำคัญ เขามีซีอิ้วแบบพิเศษมาให้ทานคู่กับติ๋มซำมื้อนี้  ที่จริงมีจิ๊กโฉ่มาด้วยแต่ผมว่าเปรี้ยวไป ไม่อร่อย

ซีอิ้วตัวนี้เป็นตัวชูโรงเลยที่ทำให้ติ่มซำมื้อนี้ที่อร่อยอยู่แล้ว ยิ่งอร่อยขึ้นหลายเท่า





มีขนมจีบแล้ว พยายามสั่งซาลาเปา แต่สื่อสารไม่รู้เรื่อง

เลยมาต่อกันที่ฮะเก๋า

ยอมรับว่าติ๋มซำที่นี่ชิ้นใหญ่จริงๆ ใหญ่ประมาณ 2 เท่าของบ้านเราได้



ชอบจานนี้มากแต่ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร

เนื้อแป้งใสบางเฉียบ อัดใส้ในมาเต็มพิกัด

อืม ทั้งอิ่ม ทั้งอร่อยได้ใจอีกหนึ่งเมนู



จานนี้ก็แปลกดี แต่ยังคงความอร่อยไม่เปลี่ยน


 กระเพาะปลา+ ไก่ + เห็ดหอม

อีกหนึ่งเมนูสุดโปรดในมื้อนี้
 ส่วนเมนูนี้ไม่ค่อยปลื้มคับ

เพราะข้างในเป็นไส้หมูสับ + ไข่แดงสดๆ

คือพอกัดไปแล้วไข่แดงจะไหลออกมาเลย  คงเพื่อบำรุงอะไรทำนองนี้

แต่ผมเป็นคนไม่ชอบอะไรดิบๆ  เลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
ส่วนจานที่เหมือนขนมไข่หงส์ลูกยักษ์นี้  เห็นโต๊ะข้างๆ สั่งก็เลยเอาตามมั่ง

แต่พอมาเสริฟลงบนโต๊ะ ก็ยังงงๆ กันอยู่คับว่าจะกินกันยังไง

เพราะลูกมันใหญ่เหลือเกิน



จริงๆ ตอนแรก คนเสริฟถามอะไรบางอย่างแต่ฟังไม่รู้เรื่อง เลยบอกไม่เอาๆ ไปก่อน

พอเขาเดินไปทำให้โต๊ะอื่นเลยถึงบางอ้อ  ก็เลยเรียกกลับมาช่วยทำให้เราด้วย

สรุปคือเขาจะมีกรรไกรมาตัดแบ่งให้คับ



ตัดเสร็จก็ออกมาเป็นทรงดอกไม้สวยงามแบบนี้

ด้านในมีไส้คล้ายๆ สังขยาแข็งๆ หวานนิดๆ อยู่ด้วยคับ

แต่ชิมแล้ว ยังไม่ค่อยได้ใจเท่าไหร่คับ



กินไปกินมาก็เริ่มไม่ไหวกันแล้วคับ เพราะหลายเมนูก็สั่งเบิ้ลไปด้วย

กอรปกับติ๋มซำเขาชิ้นใหญ่จริงๆ  เลยต้องยอมแพ้ (วันนั้นอิ่มไปถึงมื้อเย็นเลย)

เป็นมื้อที่ประทับใจสุดๆ อีกมื้อหนึ่งในทริปเลยคับ






วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

ชิม ชิม และ ชิม มาเก๊า ฮ่องกง 5 # โจ๊กฮ่องกง / Saint's Alp Tea House

วันนี้ เรามาเริ่มมื้อเช้ากันด้วยเมนูที่ใครมาฮ่องกงแล้วต้องไม่พลาดนั่นคือ...โจ๊กฮ่องกง

ร้านนี้เป็นร้านที่แนะนำในหนังสือเหมือนกัน แต่ลืมถ่ายรูปหน้าร้านมา

หน้าร้านโชว์กรรมวิธีการทำกันจะจะ




 เริ่มด้วยปาท่องโก๋ก่อน  สั่งมา 2 แบบ ขนาดใหญ่มากคับ (สังเกตุว่าขนาดที่เห็นหั่นเป็น 3 ท่อนแล้วนะคับ)   แต่กรอบนอกนุ่มในได้ใจ




จานที่ 2 เห็นโต๊ะข้างๆ สั่ง  เลยสั่งตามบ้าง

มันเหมือนก๋วยเตี๋ยวหลอด แต่ไส้เป็นปาท๋องโก๋   ใช้ทานกับซีอิ้วหวาน อร่อยมากๆคับ เพราะแป้งบางมากได้ความเค็มนิดๆ และความกรุบกรอบของปาท่องโก๋ทำให้รสชาดสุดยอดเลย




 และแล้วก็มาถึงเวลาของพระเอกของงาน  โจ๊กสารพัดแบบ 

เริ่มที่โจ๊กรวมมิตร มีหมู  กุ้ง ปลาหมึก หลังจากชิมแล้วต้องบอกเลยว่าสมเป็นโจ๊กฮ่องกง เพราะข้าวนิ่มมากเหมือนจะละลายในปาก ยิ่งกินกับกับปาท่องโก๋แล้วสุดยอดเลยคับ




 โจ๊กปลา  ก็เด็ดไม่แพ้กัน  



โจ๊กกะเพาะหมูคับ

ที่นี่ไม่มีโจกหมูอย่างเดียวนะคับ เพราะรู้สึกหมูจะเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในโจ๊กทุกชาม

และก็การันตีได้คำว่า  โจกร้านนี้อร่อยทุกชามเลย

ให้ 5 ดาวอีกหนึ่งร้านคับ


  เสร็จมื้อเช้า วันนี้แผนของเราคือการไปสนุกสุดเหวี่ยงที่ Disneyland ฮ่องกงคับ  มื้อเที่ยงก็เลยต้องไปฝากท้องกันที่ร้นอาหารแนวอวกาศที่ Disneyland





อาหารก็เป็น Junk Food ธรรมดาสไตล์อเมริกัน  สำหรับผมเรียกได้ว่าเป็นมื้อที่พลาดที่สุดของทริปเลยคับ




งานนี้เลยต้องมาแก้ตัวกันที่มื้อเย็นที่ร้านนี้คับซึ่งหนังสือนำเที่ยวฮ่องกงแนะนำว่ามาควรหาโอกาสมาลองชิมเหมือนกัน

ดูป้ายอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นร้านนวดนะคับ

แต่เป็นร้านชาชื่อดังที่มีเมนูให้เลือกกว่า 40 รายการ (ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูชานะคับเพราะเค้าเน้นขายเครื่องดื่ม แต่ก็มีอาหารจานหนักให้สั่งบ้างเหมือนกัน)






เริ่มกันที่เมนูแรก  บะหมี่หมูย่างคับ รสชาติก็โอเคนะคับ  ไม่เลวร้าย  ก็เขาเน้นขายชานี่คับ




บะหมี่ต้มยำ

ส่วนรสชาติ เหมือนเอามาม่าต้มยำบ้านเราอย่างไงอย่างงั้น

(แอบซื้อมาม่าต้มยำมาแกะซองทำหรือเปล่าหว่า)




ข้าวหมูย่าง  รสชาติกำลังดีคับ


เมนูเด็ดที่สุดในวันนี้ ที่ยอมยกดาวให้คือจานนี้คับ

ปีกไก่พะโล้ 



 มาต่อกันที่เครื่องดื่มซึ่งเป็นจุดขายหลักของร้านบ้าง  มีเมนูแปลกๆเยอะทีเดียว


เริ่มที่โอวัลตินปั่น  แก้วนี้รสชาติอร่อยมาก จนทุกวันนี้คนสั่งยังบ่นถึงตลอด

ชาแอ๊ปเปิ้ล  รสชาติธรรมดา


ชาบลูเบอรรี่  ใครชอบอะไรเปรี้ยวๆ คงถูกใจ




ปิดท้ายด้วย ชา peppermint

รสชาติแปลกดีคับ แต่ที่ติดใจมากคือกินแล้วมันจะเย็นๆ ซ่าๆ ในปาก

เหมือนหมากฝรั่งที่มีมิ้นท์เยอะๆ



เดี๋ยวตอนหน้าจะกลับมาต่อกันที่ A must order menu อีกอย่างของฮ่องกง นั่นคือติ่มซำคับ

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

ชิม ชิม และ ชิม มาเก๊า ฮ่องกง 4 # บะหมี่ร้าน Chuan Ju / ไอติม Mister Softee / ร้าน Guangdong

จากมาเก๊า เราข้ามมาที่เกาะฮ่องกง คับ และแน่นอนมาถึงฮ่องกง เมนูแรกๆ ที่ต้องนึกถึงคือบะหมี่ฮ่องกง  เราก็เลยลองเดินหาร้านบะหมี่น่าทาน แล้วก็บังเอิญมาเจอร้านนี้ซึึ่่งตั้งอยู่ใกล้ๆโรงแรมที่พัก เลยลองเขาไปชิมคับ



เมนูแรก  อย่าว่ากันนะคับ ที่มากินบะหมี่ฮ่องกง แต่ดันสั่งบะหมี่ต้มยำ คืออยากรู้ว่ารสชาดเป็นยังไง

ตอนเขาเอาบะหมี่มาเสริ์ฟก็ตกใจเหมือนกันคับเพราะชามใหญ่มาก  และก็กินไม่หมดจิงๆ เหลือเส้นบานเบอะ

ซึ่งจิงๆ สามารถขอถ้วยแบ่งได้นะคับ เพราะเห็นโต๊ะข้างๆก็ทำกัน 

เส้นบะหมี่ที่นี่ดูคล้ายเส้นขนมจีน  เลยดูเหมือนเฝอเวียดนามเหมือนกัน

ส่วนรสชาดก็อร่อยดีคับ แต่ติดหวานไปนิดนึง ถ้าลดหวานอีกนิดจะเพอร์เฟกต์มาก



ส่วนชามนี้เป็นบะหมี่ spicy ให้เราเลือกระดับความเผ็ดได้

มีกระดูกหมูที่เคี่ยวมาจนนุ่มสุดๆ + เต้าหู้ไข่

ขอบอกว่าอร่อยคับ  ชอบ ชอบ



ปิดท้ายด้วยบะหมี่หน้าหมูทอด + เต้าเจี้ยว

ชามนี้ก็อร่อย  ไม่ผิดหวังคับ



ส่วนน้ำเราเลือกชามะนาวอีกแล้วคับ เพราะอยากดับกระหาย อีกอย่างทางร้านก็เล่นเสิร์ฟชาร้อน (แค่บะหมี่ก็ร้อนปากลวกแล้ว ยังเสิรฟชาน้อนอีก งงได้อีก)    แต่ก็เป็นธรรมดาคับเพราะร้านอาหารที่ฮ่องกง มาเก๊าจะเสริฟชาร้อนตลอด หากต้องการอะไรเย็นๆต้องจ่ายตังค์อย่างเดียวเริ่มที่ 10$ อัพ

ขอบอกว่าชามะนาวที่นี่สู้ที่มาเก๊าไม่ได้คับ  ทางโน้นอร่อยกว่ามาก




หลังจากนั้น เราก็ไปเที่ยวกันทั้งวัน จนพอใกล้ๆ 2 ทุ่ม ก็มา stand by รอชมการแสดงแสงสีจากตึกต่างๆ ริมอ่าว victoria ชื่อ A symphony of lights


นี่เองคับ ก็มีโอกาสเจอ Mister Softee  แฟรนไชซ์ขายไอศครีมชื่อดังที่หนังสือ...ฮ่องกง..คู่มือเที่ยวตามใจ ชอบ..แนะนำว่าต้องหาลองทานให้ได้

แต่ปัญหาคือ มันไม่มีที่อยู่แน่นอน เพราะจะเป็นรถแวนซึ่งวิ่งไปขายตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

โชคดีก็เจอ  โชคไม่ดีก็พลาด





 Soft ice cream เจ้านี้มีตำนานมาตั้งแต่ปี 1958 ราคาก็ไม่แพงมากคับ โคนละ 7$ แต่เรื่องรสชาติ ผมว่า..ธรรมดานะคับ เฮะๆ




หลังจากดูการแสดงแสง สี เสียง Symphony of light รืมอ่าวฮ่องกงจบ ก็ไปเดินช็อปปิ้งกันต่อที่ Tsim Sha Tsui + Nathan โดยมีเป้าหมายสุดท้ายที่ร้านนี้คับซึ่งตั้งอยู่บนถนน Nathan เลย
 

และเหคุที่ต้องตามหาร้านนี้ก็เพราะเป็นร้านที่...หมึกแดงการันตีความอร่อย

อ้าวอย่างนี้จะไม่ไปลองได้ไง


เมนูต้องลองของที่นี่คือ หมูแดง เป็ดย่าง ห่านย่างคับ



ร้านก็ดูธรรมดาคับ แต่จุดเด่นคือมีเมนูภาษาไทยด้วย

แสดงว่าคนไทยมาทานเยอะ  





เนื่องจากมาถึงร้านเอาตอน 4 ทุ่ม  เรียกว่าหมดแรงคับ เลยเหมือนจะทานอะไรไม่ค่อยจะลงกัน

แต่ยังไงก็ต้องสั่ง หมูแดง + ห่านย่างมาลอง
 
 
งานนี้ไม่เสียชื่อหมึกแดงคับ  ของเค้าอร่อยจิง


อีกจานเป็นเสี้นหมีราดหน้าปลาเก๋า

จานนี้ปลาเก๋าคาวไปคับ เลยเฉยๆ

ทานไม่หมดจานด้วย รู้สึกว่าไม่ไหวต้องกลับไปนอนเอาแรงกันแล้วคับ